เอ็มม่า วัตสัน
เป็นนักแสดง นางแบบ และนักเคลื่อนไหวชาวอังกฤษ ที่ได้รับชื่อเสียงระดับโลกจากบทบาทของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ในภาพยนตร์ซีรีส์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” วัตสันเกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1990 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเติบโตในประเทศอังกฤษ เธอเริ่มต้นอาชีพการแสดงตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยภาพยนตร์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ภาคแรกในปี 2001
นอกเหนือจากบทบาทใน “แฮร์รี่ พอตเตอร์” แล้ว วัตสันยังแสดงในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เช่น “The Perks of Being a Wallflower,” “Beauty and the Beast,” และ “Little Women” เธอยังเป็นที่รู้จักจากการทำงานในฐานะทูตสันถวไมตรีของ UN Women โดยได้เปิดตัวแคมเปญ “HeForShe” ซึ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิสตรี
เอ็มม่า วัตสันได้รับการยอมรับในเรื่องความเฉลียวฉลาดของเธอ โดยเธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวรรณคดีอังกฤษจากมหาวิทยาลัยบราวน์ (หีเนียน) และยังอุทิศตนให้กับกิจกรรมทางสังคมต่างๆ
เอ็มม่า วัตสันมีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์หลายเรื่องนอกเหนือจากซีรีส์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ซึ่งนี่คือบางส่วนของบทบาทเด่นที่เธอได้รับ:
- Sam ใน The Perks of Being a Wallflower (2012)
- เอ็มม่ารับบทเป็นแซม หญิงสาวผู้ร่าเริงและมีเสน่ห์ ที่เป็นเพื่อนสนิทของตัวละครหลัก ชาร์ลี ในภาพยนตร์ที่เล่าถึงการเติบโตและการเผชิญหน้ากับปัญหาของวัยรุ่น
- Belle ใน Beauty and the Beast (2017)
- เอ็มม่ารับบทเป็นเบลล์ในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่ดัดแปลงจากการ์ตูนดิสนีย์ชื่อดังเรื่อง “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ซึ่งเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่เข้าไปอาศัยในปราสาทของเจ้าชายที่ต้องคำสาปให้กลายเป็นอสูร
- Meg March ใน Little Women (2019)
- ในภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายคลาสสิกของลุยซา เมย์ อัลคอตต์ เอ็มม่ารับบทเป็นเม็ก มาร์ช พี่สาวคนโตของครอบครัวมาร์ช ซึ่งมีความฝันที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง
- Ila ใน Noah (2014)
- เอ็มม่ารับบทเป็นอิลลา ลูกสาวบุญธรรมของโนอาห์ในภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเล่าเรื่องของโนอาห์และภารกิจในการสร้างเรือใหญ่เพื่อช่วยชีวิตจากน้ำท่วมโลก
- Nicki Moore ใน The Bling Ring (2013)
- เอ็มม่ารับบทเป็นนิกกี้ เด็กสาววัยรุ่นที่มีส่วนร่วมในการขโมยของจากบ้านคนดังในฮอลลีวูด ในภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของกลุ่มวัยรุ่นที่ทำการโจรกรรมในช่วงปี 2008-2009
บทบาทเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงที่หลากหลายของเอ็มม่า วัตสัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงที่ลึกซึ้งและหลากหลายของเธอ
เอ็มม่า วัตสันเกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1990 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่เธอเติบโตในประเทศอังกฤษ หลังจากย้ายกลับมาเมื่อเธออายุประมาณ 5 ขวบ
เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวรรณคดีอังกฤษจากมหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอเรียนจบในปี ค.ศ. 2014 นอกจากนี้เธอยังเคยใช้เวลาสั้นๆ ในการศึกษาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford University) ในประเทศอังกฤษอีกด้วย
เอ็มม่า วัตสันมีความสำเร็จมากมายในการเป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับทั้งในวงการบันเทิงและในฐานะบุคคลที่มีอิทธิพลทางสังคม นี่คือความสำเร็จที่โดดเด่นของเธอ:
- บทบาทเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ในซีรีส์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์”
- เอ็มม่าวัตสันเป็นที่รู้จักทั่วโลกจากการรับบทเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ในภาพยนตร์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ทั้ง 8 ภาค ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2001 และสิ้นสุดในปี 2011 บทบาทนี้ทำให้เธอได้รับการยกย่องในด้านการแสดงและกลายเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก
- การได้รับรางวัลและการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล
- เอ็มม่าได้รับรางวัลมากมายจากการแสดงของเธอ รวมถึงรางวัล Young Artist Award สำหรับนักแสดงเด็กหญิงที่มีผลงานยอดเยี่ยมในปี 2002 รางวัล MTV Movie Award และรางวัล People’s Choice Awards นอกจากนี้ เธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA และอีกหลายรางวัลระดับนานาชาติ
- บทบาทในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ
- หลังจาก “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เอ็มม่ายังคงประสบความสำเร็จในบทบาทอื่นๆ เช่น Sam ใน “The Perks of Being a Wallflower” (2012) ซึ่งได้รับคำชมอย่างมากจากนักวิจารณ์ บท Belle ใน “Beauty and the Beast” (2017) ที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างมหาศาล และ Meg March ใน “Little Women” (2019) ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์หลายรางวัล
- การเป็นนักแสดงที่มีอิทธิพลทางสังคม
- เอ็มม่าวัตสันไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในการแสดง แต่ยังเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่มีอิทธิพล โดยเธอได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีของ UN Women และเป็นผู้ริเริ่มแคมเปญ HeForShe ที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศทั่วโลก ความมุ่งมั่นของเธอในเรื่องสิทธิสตรีทำให้เธอได้รับการยกย่องจากทั้งวงการบันเทิงและองค์กรระหว่างประเทศ
- การได้รับการยอมรับในฐานะผู้ทรงอิทธิพล
- เอ็มม่าได้รับการจัดอันดับในรายชื่อ “100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก” ของนิตยสาร Time ในปี 2015 ซึ่งเป็นการยอมรับในผลงานทั้งในด้านการแสดงและการเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมของเธอ
ความสำเร็จเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เอ็มม่า วัตสันเป็นมากกว่านักแสดง เธอยังเป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจและเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วย