เจ้าชายแฮร์รี (Prince Harry), หรือชื่อเต็มคือ แฮร์รี แซลุส อลเบิร์ต แมกกานต์ (Henry Charles Albert David Mountbatten-Windsor), เป็นเจ้าชายของสหราชอาณาจักรและสมาชิกในครอบครัวราชวงศ์บริติช พ่อแม่ของเจ้าชายแฮร์รีคือ นายเจ้าบุตรชายเครื่องมือน้อย (Prince Charles) และ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 (Queen Elizabeth II) ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชินีของสหราชอาณาจักร. เจ้าชายเฮนรีแห่งเวลส์ KCVO มีพระนามเต็มว่า เฮนรี ชาร์ลส์ อัลเบิร์ต เดวิด หรือที่รู้จักในชื่อ เจ้าชายแฮร์รี เป็นพระราชโอรสองค์ที่สองและอายุน้อยที่สุดในเจ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ และไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เมื่อเขาประสูติ เขาได้ขึ้นเป็นอันดับสามในแถวรองจากพระบิดาและพระเชษฐา เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ สืบราชบัลลังก์อังกฤษต่อจากพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ หลังจากลูกๆ ของวิลเลียม จอร์จและชาร์ลอตต์ประสูติ เขาก็กลายเป็นผู้สืบทอดลำดับที่ห้า เขาเข้าเรียนในโรงเรียนในสหราชอาณาจักรและสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยอีตัน จากนั้นเขาก็เดินทางไปแอฟริกาและอาร์เจนตินา รับใช้ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเลโซโท และสถานีเลี้ยงปศุสัตว์ในออสเตรเลีย เมื่อกลับมาที่สหราชอาณาจักร เขาได้เข้าร่วมกับ RMA Sandhurst เพื่อรับการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ และเมื่อเสร็จสิ้น เขาได้รับหน้าที่เป็น Cornet ในทีม Blues and Royals เขาเคยปฏิบัติหน้าที่ในอัฟกานิสถานในปี 2550-51 ซึ่งเขาถูกนำไปใช้อย่างลับๆ ในตำแหน่งผู้ควบคุมการบินส่วนหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวดังกล่าวรั่วไหล เขาถูกดึงกลับและถูกส่งไปประจำการอีกครั้งในอัฟกานิสถานในปี 2555-2556 เขาออกจากกองทัพในฐานะกัปตันในปี 2558 อย่างไรก็ตาม ยังคงเกี่ยวข้องกับความพยายามช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เขายังเป็นผู้อุปถัมภ์องค์กรการกุศลหลายแห่ง

นี่คือประวัติและเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของเจ้าชายแฮร์รี:

  1. วันเกิด: เจ้าชายแฮร์รีเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1984 ในพลาซ่า น้ำมังสิกบาลาส์, ประเทศอังกฤษ.
  2. ชีวิตในวัยเด็ก: เจ้าชายแฮร์รีเติบโตในบรรดาภรรยาและพี่น้องราชวงศ์บริติช และได้รับการศึกษาที่ Eton College และ Royal Military Academy Sandhurst. เขาได้เข้ารับการฝึกอบรมทางทหารและเป็นสมาชิกในกองทัพกองเดินป่าในอาเฟกานิสถาน.
  3. การรับราชการ: เจ้าชายแฮร์รีได้รับการรับราชการเป็นกายบาทในกองทัพอังกฤษ และเข้ารับการฝึกอบรมในการบินฮอลิคอปเตอร์และเป็นนักบินฮอลิคอปเตอร์ในกองทัพ.
  4. การให้บริการแก่สังคม: เจ้าชายแฮร์รีมีส่วนร่วมกับหลายโครงการการกุศลและการบริจาค รวมถึงการสนับสนุนและแนะนำให้คนเล็กๆ และผู้เยาว์ที่มีปัญหาในสุขภาพจิตรับการช่วยเหลือ.
  5. การแต่งงาน: เจ้าชายแฮร์รีแต่งงานกับนางเอกเมกันมาร์เคิล (Meghan Markle) ในงานแต่งงานในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ในวินเซอร์คาสเติล พร้อมชายแฮรรีเป็นข้ารองบ่าว (Best Man) และสาวเจ้าหญิงยกเลิกการเสด็จสวรรค์ ทำให้เขาได้รับคำยกย่องมากในการร่วมงานแต่งงานที่มีความหลากหลายและตัวตนอิสระของเขา.
  6. การถอนตัวจากการพิจารณางานราชการ: เมื่อปี 2020 เจ้าชายแฮร์รีและนางเอกเมกันมาร์เคิลประกาศถอนตัวจากการรับราชการที่สูงของครอบครัวราชวงศ์บริติช และตัดขาดการบรรลุความตกลงกับนางเอกเครื่องมือน้อยว่าจะตัดส่วนของตนออกและเข้ารับการค้ำประกันด้วยตนเองในการประสานงานกับสื่อมวลชน.
  7. การรับราชการสังคม: หลังจากการถอนตัวจากการรับราชการทางอาชีพ แฮร์รีและเมกันมาร์เคิลสร้างมูลนิธิ “Archewell Foundation” เพื่อสนับสนุนโครงการและการกุศลต่างๆ ที่พวกเขาต้องการสนับสนุน.
  8. ครอบครัว: เจ้าชายแฮรรีและนางเอกเมกันมาร์เคิลมีลูกสาวคนแรกชื่อ “อาร์ชีบาร์เรลล์” (Archie Harrison Mountbatten-Windsor) ที่เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 และสามารถมีข้อตกลงเพิ่มเติมในครอบครัวภายหลัง.

เจ้าชายแฮรรีคือบุตรเจ้าบุตรชายแห่งสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 และมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกุศลและการทำงานร่วมกับสังคมอย่างหลากหลาย แม้ว่าเขาจะตัดส่วนราชการและเรียกตัวเองว่า “แคปต.เจ้าชายแฮร์รี” หลังการตัดส่วนราชการ แต่เขายังคงเป็นสมาชิกในครอบครัวราชวงศ์บริติชและมีผลงานการกุศลและการทำงานสังคมที่เริ่มขึ้นต่อเนื่อง.

Meghan Markle and Prince Harry Hold Hands at Invictus Games Germany

อาชีพ

เจ้าชายแฮร์รีมักพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางข้อถกเถียงที่กลายเป็นพาดหัวข่าวแท็บลอยด์ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มสุราโดยยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือพยายามสูบกัญชา ท่ามกลางการกระทำอื่นๆ

เขาถูกตำหนิอย่างมากที่ปรากฏตัวในชุดเครื่องแบบนาซีพร้อมปลอกแขนสวัสดิกะในงานปาร์ตี้เครื่องแต่งกายซึ่งนำไปสู่การโต้เถียงและการโวยวายของสาธารณชนในเดือนมกราคม พ.ศ. 2548 ต่อมาเขาขอโทษสำหรับการกระทำดังกล่าวในแถลงการณ์ที่กล่าวว่า “ฉันเสียใจเป็นอย่างยิ่งหากเป็นสาเหตุใด ๆ สร้างความขุ่นเคืองหรือทำให้ใครอับอาย เลือกชุดไม่ถูก ต้องขออภัยด้วย”

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 เขาได้ลงทะเบียนที่ Royal Military Academy Sandhurst เพื่อรับการฝึกอบรมนายทหาร หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกอบรมดังกล่าว เขาได้รับหน้าที่ในทีมเดอะบลูส์และรอยัลส์ในตำแหน่งคอร์เน็ต ซึ่งเป็นร้อยโทเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2549

มีการประกาศในปี พ.ศ. 2549 ว่าเจ้าชายแฮร์รีจะถูกส่งไปประจำการในอิรักในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงในที่สาธารณะว่าเขาควรถูกส่งไปอยู่ในเขตสงครามหรือไม่

นายพลเซอร์ริชาร์ด แดนแนตต์ หัวหน้ากองทัพอังกฤษในขณะนั้น ได้ประกาศการตัดสินใจของเขาเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2550 เพื่อสนับสนุนการส่งเจ้าชายแฮร์รีไปประจำการในอิรัก อย่างไรก็ตาม ในเดือนถัดมา แดนแนตต์ประกาศว่าเจ้าชายแฮร์รีจะไม่ถูกส่งไปที่นั่นเนื่องจากข้อกังวลหลายประการ รวมถึงความน่าจะเป็นที่พระองค์จะกลายเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงอันตรายที่อาจเกิดกับทหารที่อยู่รอบตัวพระองค์

เขาถูกนำไปใช้อย่างลับๆ ในตำแหน่งผู้ควบคุมการบินส่วนหน้าเป็นเวลา 77 วันระหว่างปี 2550-2551 ในจังหวัดเฮลมันด์ของอัฟกานิสถาน ในขณะที่กองทัพอังกฤษและแคนาดากำลังเข้าร่วมในสงครามในอัฟกานิสถานที่นำโดยนาโต การเสด็จเยือนดังกล่าวทำให้เจ้าชายแฮร์รีทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์แรกที่ถูกเคลื่อนพลในเขตสงคราม หลังจากที่ลุงของเขา เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ก บินเฮลิคอปเตอร์ระหว่างสงครามฟอล์กแลนด์ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเผยแพร่ในนิตยสารของออสเตรเลีย เจ้าชายแฮร์รีก็ถูกเรียกตัวกลับ

เขาได้เป็นร้อยโทเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2551 เขาได้รับเหรียญตราปฏิบัติการสำหรับอัฟกานิสถานในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 จากการรับราชการทหารในอัฟกานิสถาน ซึ่งรวมถึงการลาดตระเวนในภูมิภาคที่ไม่เป็นมิตร และช่วยเหลือกองพลน้อยกุร์ข่าในการขับไล่กลุ่มกบฏตอลิบานกลับไป

เจ้าชายแฮร์รีทรงตัดสินใจเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ หลังจากผ่านมาตรฐานที่กำหนดแล้ว เขาเริ่มฝึกใน Defense Helicopter Flying School ที่ RAF Shawbury และในวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554 เขาได้รับ Apache Flying Badge เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นกัปตันในวันที่ 16 เมษายนปีนั้น

หลังจากนั้นเขาไปที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในแคลิฟอร์เนียในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 เพื่อรับการฝึกการใช้อาวุธด้วยเฮลิคอปเตอร์ และเดินทางกลับอังกฤษในเดือนพฤศจิกายนปีนั้นเพื่อจบหลักสูตรการฝึกเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ที่สถานีการบินวัตติแชมในซัฟฟอล์ก

เขาถูกส่งไปพร้อมกับกองทัพอากาศในการทัวร์ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนักบินร่วมและมือปืนของเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ที่แคมป์บาสชันทางตอนใต้ของอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555 เขาได้รับภัยคุกคามถึงชีวิตจากกลุ่มตอลิบานระหว่างประจำการนาน 20 สัปดาห์ .

กระทรวงกลาโหมประกาศเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ว่าเจ้าชายแฮร์รีมีคุณสมบัติเป็นผู้บัญชาการเครื่องบินอาปาเช่

เขาก่อตั้งงานกีฬาพาราลิมปิกระดับนานาชาติ “Invictus Games” และเปิดตัวเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2014 ผู้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาหลายประเภท ได้แก่ เจ้าหน้าที่กองทัพที่ได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บ และป่วย ตลอดจนทหารผ่านศึกที่เกี่ยวข้อง เขาเป็นผู้อุปถัมภ์ของ Invictus Games Foundation และความพยายามอื่นๆ อีกหลายประการที่ช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เขาได้เป็นผู้บัญชาการอัศวินของ Royal Victorian Order (KCVO) และในวันที่ 19 มิถุนายนปีนั้น เขาได้ยุติหน้าที่ราชการกับกองทัพ

เขายังคงเป็นผู้อุปถัมภ์องค์กรและองค์กรการกุศลหลายแห่ง เช่น HALO Trust, WellChild, Walking With The Wounded และ London Marathon Charitable Trust ในช่วงต้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 พระองค์ร่วมกับเจ้าชายวิลเลียมได้ก่อตั้งมูลนิธิเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีเพื่อพัฒนาความพยายามด้านการกุศลของพวกเขา

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *